วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

"ประวัติแฮกเกอร์"



แฮกเกอร์
แฮกเกอร์ (hacker) หรือ นักเจาะระบบข้อมูล ใช้หมายถึงผู้เชี่ยวชาญในสาขาคอมพิวเตอร์ บางครั้งยังใช้หมายถึงผู้เชี่ยวชาญในสาขาอื่นนอกจากคอมพิวเตอร์ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ในรายละเอียด หรือ ผู้ที่มีความเฉลียวในการแก้ปัญหาจากข้อจำกัด ความหมายที่ใช้ในบริบทของคอมพิวเตอร์นั้นได้เปลี่ยนแปลงไปจากความหมายดั้งเดิม โดยผู้ใช้คำในช่วงหลังนั้นได้ใช้ในความหมายที่กว้างออกไป รวมทั้งในบางครั้งยังใช้ในความหมายที่ขัดแย้งกัน
ในปัจจุบัน "แฮกเกอร์" นั้นใช้ใน 2 ความหมายหลัก ในทางที่ดี และ ไม่ค่อยดีนัก ความหมายที่เป็นที่นิยม และพบได้บ่อยในสื่อนั้น มักจะไม่ดี โดยจะหมายถึง
อาชญากรคอมพิวเตอร์ ส่วนในทางที่ดีนั้น "แฮกเกอร์" ยังใช้ในลักษณะของคำติดปาก หมายถึง ความเป็นพวกพ้อง หรือ สมาชิกของกลุ่มคอมพิวเตอร์ นอกเหนือจากนี้ คำว่า "แฮกเกอร์" ยังใช้หมายถึงกลุ่มของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะโปรแกรมเมอร์ที่มีความสามารถในระดับผู้เชี่ยวชาญ ตัวอย่างเช่น "ลีนุส ทอร์วัลด์ส ผู้สร้างลินุกซ์ นั้นเป็นแฮกเกอร์อัจฉริยะ"
จากความหมายที่แตกต่างข้างต้น จะเห็นได้ถึงความขัดแย้งในการใช้คำ บางกลุ่มที่ใช้คำแฮกเกอร์นี้เพื่อเรียกกลุ่มของตน ก็ไม่ชอบที่คำนี้ถูกใช้ในความหมายที่ไม่ดี และแนะนำให้ใช้คำอื่น เช่น
แบล็กแฮต หรือ แคร็กเกอร์ เพื่อเรียกอาชญากรคอมพิวเตอร์แทน ส่วนผู้ที่ใช้คำนี้ในความหมายที่ไม่ดี ซึ่งเป็นความหมายที่นิยมใช้กันนั้น ให้ความเห็นถึงความหมายในทางที่ดี นั้นนอกจากจะก่อให้เกิดความสับสนแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นที่นิยมอีกด้วย
ส่วนความหมายกลางนั้น ได้สังเกตถึงจุดร่วมระหว่างความหมายในทางที่ดีและไม่ดี โดยพิจารณาการแฮกเป็นการใช้ความชำนาญ เพียงแต่อาจใช้เพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันทั้งในทางดีและไม่ดี ตัวอย่างเช่น ช่างสะเดาะกุญแจ มีความชำนาญในการปลดกลอน (เปรียบเทียบการสะเดาะกุญแจกับการแฮก) ซึ่งความชำนาญนี้อาจถูกใช้ได้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี
การแฮกสามารถหมายถึงวิธีการศึกษาหาคำตอบให้กับปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยที่มีข้อจำกัดในเรื่องของข้อมูลหรือความรู้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาหรือความเข้าใจต่อปัญหาเหล่านั้นได้มากขึ้น การได้ใช้คำว่าแฮกเกอร์จึงเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ เพราะเปรียบได้กับเป็นผู้คิดค้นสิ่งใหม่ที่สามารถทำงานหรือแก้ปัญหาได้ดีขึ้นและง่ายขึ้น แต่ถ้าเป็นการแฮกที่ใช้ความรู้หรือความสามารถที่มีในทางที่ไม่ดี ก็จะเกิดความสับสนในการใช้คำว่าแฮก ดังนั้นคำว่าแครกเกอร์จึงถูกนำมาใช้เรียกคนที่มีความรู้ความเข้าใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งแต่ใช้ความรู้นั้นในทางที่ไม่ดีและขัดกับจริยธรรมของแฮกเกอร์


แฮกเกอร์ (Hacker) คือบุคคลที่มีความสนใจในกลไกการทำงานของระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์อย่าง ลึกซึ้ง แฮกเกอร์ส่วนใหญ่ต้องมีความรู้เทียบเท่าหรือเหนือกว่าโปรแกรมเมอร์ โดยจะเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพวกเขามีความใส่ใจที่จะนำความรู้พื้นฐานที่ผู้อื่นมองว่าธรรมดามา ประยุกต์ใช้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดแนวความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ อยู่ในสังคมดิจิตอลอยู่ตลอดเวลา แฮกเกอร์จะมีความเข้าใจในจุดอ่อนของระบบและที่มาของจุดอ่อนนั้นๆ เนื่องจากคอยติดตามข่าวสารและความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา การกระทำใดๆ ที่เกิดจากการศึกษาของแฮกเกอร์จะต้องแน่ใจแล้วว่า ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ข้อมูล


แฮกเกอร์ (Hacker) หมายถึง บุคคลผู้ที่เป็นอัจริยะ มีความรู้ในระบบคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี สามารถเข้าไปถึงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ โดยเจาะผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ของคอมพิวเตอร์ได้ กลุ่มพวกนี้จะอ้างว่า ตนมีจรรยาบรรณ ไม่หาผลประโยชน์จากการบุกรุกและประณามพวก Cracker



ประวัติและผลงานของแฮกเกอร์ชื่อดังของโลก








Johan Helsingiusมีนามแฝงว่า Julf เขาเป็นผู้จัดการของ Anonymous Remailer ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเรียกว่า Penet.fi แต่ในที่สุดเขาก็ปิดกิจการลงในเดือนกันยายน ปี 1996 เนื่องจากตำรวจอ้างว่า Church of Scientology ได้รับความเสิยหายอันเกิดจากการมีคนนำความลับของพวกเขาไปเผยแพร่โดย ปกปิดตัวเองด้วยบริการของ Helsingius Remailer ที่เขาทำ ซึ่งดำเนินงานโดยคอมพิวเตอร์ 486 และ Harddisk 200Mb เพียงเท่านั้นเอง






Kevin Mitnick มีนามแฝงว่า "Condor" อาจจะเรียกได้ว่าเป็น cracker ที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลก Mitnik เริ่มต้นด้วยการเป็น phone phreak ตั้งแต่ปีแรกๆ Mitnik สามารถ crack เว็บไซต์ทุกประเภทที่คุณสามารถนึกได้ รวมถึงเว็บไซต์ทางการทหาร บริษัททางการเงิน บริษัทซอฟแวร์ และบริษัททางด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ (เมื่อเขาอายุ 10 ขวบ เขาสามารถ Crack เว็บไซต์ของ North American Aerospace Defense Command) เขาถูกจับเพราะเขาดันเจาะ เข้าไปในคอมพิวเตอร์ของผู้วชาญด้านรักษาความปลอกภัย ชาวญี่ปุ่นชื่อ Tsutomu Shimomura ทำให้เอฟบีไอตามล่าตัวเขา และถูกสั่งห้ามใช้ หรือเข้าใกล้คอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันเขาออกจากคุกแล้ว เขียนหนังสือความปลอดภัย ด้าน hacker อยู่



John Draperมีนามแฝงว่า Cap'n Crunch เขาเป็นผู้ริเริ่มในการใช้หลอดพลาสติกที่อยู่ในกล่องซีเรียลมาทำให้โทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับการขนานนามว่า "เจ้าพ่อการแคร็กโทรศัพท์" หรือที่เรียกกกันว่า "phreaking" ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นเขาพยายามทำให้โทรศัพท์คืนเหรียญมาทุกครั้งที่หยอดลงไป เครื่องมือที่เขาชอบใช้คือ whistle (เครื่องเป่า) จากกล่อง Cap'n Crunch cereal โดย whistle ดังกล่าวจะให้กำเนิดคลื่นเสียงขนาด 2600 hertz ซึ่งเพียงพอจะสามารถโทรศัพท์ได้โดยจะต้องใช้ร่วมกับ bluebox (กล่องสีน้ำเงินจะช่วยให้สามารถโทรศัพท์ฟรีได้)













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น